ความเดิมจากตอนที่แล้ว (ทำยังกะนิยายรักเรื่องยาว 555) ผมได้พาพวกเราไปรู้จักกับตำแหน่งผู้ช่วยต้นเรือซึ่งเป็นตำแหน่งแรกของนายประจำเรือฝ่ายปากเรือกัน ตอนนี้ก็ถึงเวลาตำแหน่งหัวหน้าลูกเรือฝ่ายเดินเรือกันบ้างครับ เราเรียกสุภาพบุรุษตำแหน่งนี้ว่า ‘สรั่ง’ ครับ
ที่มาของสรั่ง
สรั่งเป็นตำแหน่งที่อาวุโสสูงสุดของลูกเรือฝ่ายเดินเรือ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Boatswain มาจากภาษาอังกฤษโบราณว่า batswegen ซึ่งมาจากคำว่า bat (เรือ) ที่เชื่อมกับ Old Norse Sveinn (swain) ซึ่งหมายถึงชายหนุ่ม เด็กฝึกงานผู้ติดตาม หรือคนใช้ ภายหลังก็ถูกสะกดเป็น Bosun ตามหนังสือเรื่อง The Tempest ของเช็กสเปียร์ที่เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1611 และถูกใช้ต่อกันเรื่อยมา
‘สรั่ง’ ตามพจนานุกรมไทยหมายถึง หัวหน้ากะลาสีครับ คำ ๆ นี้น่าจะเพี้ยนมาจากแขกเปอร์เซียที่ล่องเรือเข้ามาค้าขายในบ้านเราสมัยก่อน ภาษาเปอร์เซียคำว่า ‘ซาลาร์’ แปลว่าหัวหน้า แล้วคนไทยก็คงเห็นแขกเรียกหัวหน้าของลูกเรือว่า ‘ซาลาร์ๆๆๆ’ พอนานเข้าก็เพี้ยนจนกลายเป็นสรั่งในที่สุด
คนประจำเรือที่จะทำหน้าที่สรั่งจะต้องมีประสบการณ์และผ่านงานลูกเรือมาหลายปี มีภาวะผู้นำ และมีความรู้ความสามารถด้านพื้นฐานชาวเรือเป็นอย่างดีครับ เช่น งานบำรุงรักษาตัวเรือ แทงลวดแทงเชือก ผูกเงื่อนต่าง ๆ โดยภาระงานในแต่ละวันจะได้รับมอบหมายงานจากต้นเรือ ก็เป็นงานด้านสินค้า การดูแลรักษาตัวเรือ การเคาะสนิมทาสีตัวเรือ หรืองานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย จากนั้นสรั่งก็จะไปจ่ายงานให้ลูกน้องคือ นายท้ายและกะลาสีเรือต่อ ซึ่งสรั่งก็จะพิจารณาจ่ายงานให้แต่ละคนตามความรู้ความสามารถโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ของงานเป็นหลัก ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ สรั่งก็จะเหมือนกับงานโฟร์แมนบนบกนั่นแหละครับที่รับงานผู้รับเหมามาแล้วมาจ่ายงานต่อให้คนงาน
คุณสมบัติเบื้องต้นสรั่ง
ในปัจจุบัน สรั่งสัญชาติไทยที่ทำงานอยู่บนเรือบรรทุกสินค้าที่วิ่งระหว่างประเทศต้องถือประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความชํานาญลูกเรือชํานาญงานฝ่ายเดินเรือ (Rating as able seafarer deck) ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่าเกี่ยวกับการสอบความรู้ของผู้ทําการในเรือ พ.ศ. 2565 โดยต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังต่อไปนี้ครับ
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- มีคุณสมบัติตามข้อกําหนดสําหรับการออกประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความชํานาญลูกเรือเข้ายามฝ่ายเดินเรือ
- มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานความรู้ความสามารถสําหรับลูกเรือชํานาญงานฝ่ายเดินเรือตามภาคผนวก 2 ในตารางที่ A-II/5 ของอนุสัญญา STCW ในเรื่องต่อไปนี้
3.1 ความรู้เรื่องการเดินเรือในระดับสนับสนุน
3.2 การจัดการสินค้าและการวางสินค้าบนเรือระดับสนับสนุน
3.3 ควบคุมการปฏิบัติงานบนเรือและดูแลคนประจำเรือในระดับสนับสนุน
3.4 การบำรุงรักษาและการซ่อมแซมในระดับสนับสนุน
โดย ‘ระดับสนับสนุน’ (support level) หมายถึง ระดับความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานหน้าที่และความรับผิดชอบในเรือตามที่รับมอบหมายและอยู่ภายใต้การควบคุมกํากับของผู้ปฏิบัติงานในระดับปฏิบัติการและระดับบริหาร
สมัยผมลงเรือในวันแรกของชีวิตในตำแหน่งนักเรียนฝึกฝ่ายปากเรือ ผมก็ต้องฝากชีวิตไว้กับสรั่งนี่แหละครับ เพราะต้นเรือจะสั่งว่าให้เก็บเกี่ยวความรู้ทุกอย่างของสรั่งให้หมด ช่วงแรก ๆ ก็เดินตามสรั่งต้อย ๆ ทุกย่างก้าว ทุกอย่างเป็นเรื่องแปลกใหม่น่าตื่นเต้นของผมไปหมด ช่วง 6 เดือนแรกผมไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นสะพานเดินเรือเลย ต้องทำงาน Day work กับสรั่งตลอด ซึ่งผมว่าผมโชคดีมาก ๆ ที่เจอสรั่งดีและไม่หวงวิชา สรั่งคนแรกของผมชื่อ ‘วิชัย’ แกเป็นสรั่งมานาน เดินเรือมาแล้วรอบโลก ภาษาชาวเรือเรียกว่าเขี้ยวลากดินเลยล่ะ ด้วยความขยันและตั้งใจของผม แกเลยถ่ายทอดวิชาให้แบบหมดไส้หมดพุง ผมเลยได้ความรู้พื้นฐานของคนประจำเรือฝ่ายปากเรือมามากพอสมควรเลยครับ
ถ้าเชื่อเรื่องสายมู มีเรื่องเล่ากันว่า สรั่งจะเป็นคนที่เจอผีบ่อยที่สุดเพราะต้องออกไปประจำสถานีทิ้งสมอที่หัวเรือตอนดึก ๆ อยู่ บ่อย ๆ แล้วบริเวณหัวเรือที่ชักธงไทยก็มักจะมีดอกไม้ผ้าแพรเจ็ดสีผูกอยู่เต็มไปหมด บางครั้งดูหน้าเกรงขาม แต่ช่วงผมเป็นนักเรียนฝึกตามสรั่งไปทุกที่ทุกเวลาก็ไม่เคยเจอนะครับสงสัยไม่ค่อยถูกโฉลกกัน เสียดาย! ไม่งั้นคงได้ถูกหวยรางวัลใหญ่กับเขาบ้าง 555
Photo by motomoto sc on Unsplash
หน้าที่และความรับผิดชอบของสรั่ง
มาดูหน้าที่และความรับผิดชอบหลัก ๆ ของสรั่งกันบ้างครับ แน่นอนครับ สรั่งจะทำงานที่ได้รับมอบหมายจากต้นเรือและทำงานต่อไปนี้
1. ดำเนินการจ่ายงานประจำวัน กำกับดูแล และฝึกอบรม ตลอดจนประเมินผลผู้ใต้บังคับบัญชาแผนกเดินเรือ
2. ควบคุมดูแลการใช้และจัดทำบัญชีของใช้สิ้นเปลืองแผนกเดินเรือ เช่น สีทาเรือ, ลวด, เครื่องมือ, วัสดุที่ใช้ผูกรัดสินค้าและจัดระวางสินค้าเป็นไปอย่างประหยัดและบรรทุกให้ได้มากที่สุด
3. เก็บกวาดและทำความสะอาดระวางสินค้า เก็บรวบรวมไม้ดันเนจและวัสดุที่ใช้ในการผูกรัดสินค้าเพื่อสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกในครั้งต่อไป
4. ตรวจและปิดผนึกประตูกั้นน้า และฝาช่องทางเข้าระวางให้แน่นสนิท ช่องทางระบายอากาศ ก่อนเรือออกเดินทาง
5. ทำความสะอาดและบำรุงรักษาตัวเรือ, ดาดฟ้า, ระวางสินค้า และฝาระวางสินค้าตลอดจนบริเวณที่ที่พักอาศัย และช่องทางเดินให้สะอาดถูกสุขอนามัย
6. ใช้และเก็บรักษาเชือก/ลวดผูกเรือ และสมอเรือให้ถูกต้องขณะที่เรือกำลังจะเข้าเทียบหรือออกจากเทียบในเมืองท่าหรือขณะที่จอดอยู่ในท่าเรือ
7. รับผิดชอบงานซ่อมทำและปฏิบัติการบำรุงรักษาเรือในแผนกเดินเรือทุกอย่าง
8. ดำเนินการฝึกอบรมผู้ใต้บังคับบัญชาและชี้แจงพวกเขาให้ทราบถึงวิธีการทำงานเมื่อได้รับคำสั่งจากต้นเรือ
9. จัดทำรายงานเกี่ยวกับจุดหลัก ๆ ของแผนงานบำรุงรักษาเรือในแต่ละเที่ยวเรือแล้วเสนอให้ต้นเรือเพื่อขอรับคำแนะนำในการปฏิบัติต่อไป
10. ปฏิบัติงานด้านบำรุงรักษา ทำบันทึกและรายงานให้แผนกต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทราบ
11. เข้าประจำที่สถานีหัวเรือเพื่อใช้เครื่องกว้านสมอขณะที่เรือกำลังจะออกจากหรือเข้าเทียบท่าเรือเข้าผูกทุ่นจอดเรือ หรือทิ้งสมอ/ฮะเบสสมอ
สรั่งต้องเชื่อมประสานทุกฝ่ายเพื่อให้งานลุล่วง
จริง ๆ แล้วตำแหน่งสรั่งนอกจากจะเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายเดินเรือแล้ว ยังเป็นตำแหน่งระหว่างกลางของนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือและลูกเรือ ในสมัยก่อนบางทีเขาก็จะถือว่าสรั่งเป็น Petty Officer เลยทีเดียว คือกัปตันเรือหรือนายเรือในสมัยโบราณ เขาจะเลือกผู้ช่วยผู้บังคับการเรือของเขาเองซึ่งทำหน้าที่ตามความพอใจของกัปตัน ตำแหน่ง Boatswain ก็เลยได้รับการยกย่องให้เป็น Officer กลาย ๆ
คนจะทำหน้าที่สรั่งได้ ต้องเป็นที่น่านับถือจากลูกเรือ คุณสมบัติประการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อสรั่งมีความรู้และความชำนาญในงานต่าง ๆ ลูกเรือฝ่ายเดินเรือก็จะเกิดความศรัทธาและนับถือในตัวสรั่งเรือ ซึ่งเปรียบเหมือนหัวหน้าของนายท้าย นอกจากนี้ สรั่งต้องผู้มีมนุษย์สัมพันธ์และมีหลักความเป็นผู้นำ คือต้องเข้าใจความต้องการของต้นเรือ และขณะเดียวกันก็เข้าใจขีดความสามารถของนายท้าย ลูกน้องมีความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการตรากตรำทำงานมาแล้วเพียงไร แต่การที่จะดำเนินการให้งานที่ต้นเรือสั่งนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ควรจะทำอย่างไร เพื่อมิให้นายท้ายรู้สึกระคายเคืองความรู้สึก ซึ่งจะมีผลต่อการบังคับบัญชาในโอกาสต่อไป และที่สำคัญสรั่งต้องมีร่างกายที่แข็งแรง เพราะสภาพงานที่ต้องเดิน วิ่ง และปีนป่ายต่าง ๆ ทำให้ต้องใช้พละกำลังมาก
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับสรั่งเรือในการทำงานคือ อุบัติเหตุอันเนื่องมาจากเครื่องมือที่ใช้ในการบรรทุกและขนถ่ายสินค้า เช่น เครน ปั้นจั่น เชือก ลวดสลิง โซ่ ฯลฯ เหล่านี้เป็นเครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่มหึมา มีน้ำหนักมาก หากไม่ระมัดระวังหรือมีข้อผิดพลาดในการใช้ เครื่องมือและอุปกรณ์เหล่านี้ อาจจะเหวี่ยง ฟาด ทับ หรือกระแทกส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย ทำให้เกิดการบาดเจ็บอย่างร้ายแรงหรือถึงแก่ชีวิตได้ครับ
สรั่งเรือเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ทั้งกำลังความคิดและกำลังกาย จึงเป็นตำแหน่งที่ต้องตรากตรำมาก ดังนั้น ตำแหน่งนี้จึงเหมาะสมกับคนที่มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตมั่นคงแข็งแรงและเข้มแข็งซึ่งก็เท่ากับเป็นบุคคลที่อยู่ในวัยฉกรรจ์นั่นเอง คนที่ทำงานนาน ๆ อายุมากขึ้น ๆ สังขารย่อมร่วงโรยไป จึงเป็นไปได้ยากที่จะรับหน้าที่ในตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบสูง และทำงานในบนเรือในทะเลที่ทั้งต้องฝ่าคลื่นลม ยืนและทรงตัวบนเรือที่โยนไปโยนมา ดังนั้น สรั่งเรือที่อายุมากจำเป็นต้องลาออกไปประกอบอาชีพอื่น ๆ บนบก ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่คนใหม่ ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามารับงานต่อไป ซึ่งผมบอกได้เลยว่า งานในตำแหน่งสรั่งเรือเป็นที่ต้องการอยู่ตลอดเวลาครับ
แล้วพบกันใหม่ใน Seamoor Blog ฉบับหน้าในตำแหน่งนายท้ายครับ
บทความโดย: Old captain never die
อัปเดต: มิถุนายน ค.ศ. 2022